บทความ : Happy Relax ตอน เยียวยาได้ด้วยโหราศาสตร์จริงเหรอ ?
คนเราบางทีก็มีความเครียด หรือปัญหาที่กลัดกลุ้มใจ หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดีในการแก้ปัญหา ผลสำรวจความสุขคนทำงานทั่วประเทศใน ปี พ.ศ. 2565 พบว่า มีคนทำงานมากกว่าครึ่งตกอยู่ในภาวะความเครียด โดยร้อยละ 45.3 เครียดในระดับปานกลาง และ ร้อยละ 14 เครียดมากถึงมากที่สุด ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าห่วงใยอย่างยิ่ง (ภาพที่ 1)
ภาพที่ 1 ระดับความเครียดของคนทำงาน (ในองค์กร) ปี พ.ศ. 2565
ที่มา: ข้อมูลความสุขคนทำงานในองค์กร ปี พ.ศ. 2565 โดยศูนย์วิจัยความสุขคนทำงานแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ข้อมูลของศูนย์วิจัยความสุขคนทำงานแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้ว่า ร้อยละ 9.1 ของคนทำงานไทยในปี พ.ศ. 2565 รู้สึกว่าชีวิตไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเลย และร้อยละ 6.7 จัดการปัญหาในชีวิตไม่ได้หรือจัดการได้น้อย
ภาพที่ 2 ร้อยละของคนทำงาน (ในองค์กร) ปี พ.ศ. 2565 ที่ชีวิตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และจัดการปัญหาไม่ได้
ที่มา: ข้อมูลความสุขคนทำงานในองค์กร ปี พ.ศ. 2565 โดยศูนย์วิจัยความสุขคนทำงานแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
หลายคนเครียดจากปัญหา และความเครียดก็ทำให้หาทางออกให้ปัญหาไม่ได้ ก็ย้อนกลับมาเครียดมากขึ้นอีกวนไป บางคนก็จะนำปัญหาที่ว่าไปปรึกษาพ่อ-แม่ เพื่อนสนิท คนรู้ใจ แต่ว่าในบางครั้งก็มีปัญหาที่ไม่สะดวกใจจะเล่า บางคนก็ไม่มีบุคคลดังกล่าวที่จะคอยรับฟังหรือให้คำปรึกษา เพราะฉะนั้นนักโหราศาสตร์หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า “หมอดู” จึงเป็นอาชีพหนึ่งที่ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของใครหลายคนไม่น้อยเลยในเวลาที่มีปัญหา หมอดูจะคอยรับฟังปัญหาจากลูกดวงมากมายสารพัดหัวข้อ และจะชี้ทางให้คำแนะนำพวกเขาให้เห็นทางออก เปรียบเสมือน “จิตแพทย์” ดีๆนี่เอง
แล้วถ้าถามว่า “ถ้าเช่นนั้นทำไมไม่ไปหาจิตแพทย์ซะเลยล่ะ ไปดูดวงทำไม?”
จิตแพทย์นั้นจะรักษาคนโดยใช้ความรู้ทางจิตวิทยาและหลักเหตุผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ บางครั้งก็ใช้ยารักษาคนไข้
แต่หมอดูนั้น จะใช้หลักโหราศาสตร์ต่างๆที่ตนเองถนัด ในการชี้ทางสว่างให้กับลูกดวง และคำตอบนั้นจะค่อนข้างจะเป็นแนวทำนายอนาคตได้ ซึ่งอาจจะมีความน่าสนุก น่าสนใจ และทำให้กระจ่าง ณ ตอนนั้น ได้มากกว่า จึงได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อย นอกจากนี้ค่าครูจากการดูดวงมีราคาถูกๆเพียงแค่หลักสิบหลักร้อย หรือบางเจ้าไม่คิดเงินก็มี แถมยุคนี้เป็นยุคดิจิทัลหาหมอดูได้ง่ายมาก ทำให้เป็นที่จับต้องได้ง่ายกว่า
พอรับรู้คำตอบที่เหมือนมาจากอนาคต ซึ่งเป็นคำตอบที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้างนั้น ก็จะทำให้ใครหลายคนสามารถเตรียมตัวหรือตั้งรับ ความสำเร็จ หรือ ปัญหาได้
แต่ก็อย่างที่รู้กัน การดูดวงก็เป็นการทำนายซึ่งอิงจากหลักการที่บางครั้งก็ยากจะพิสูจน์ได้จึงสามารถคาดเคลื่อนได้ และมีจำนวนไม่น้อยที่มิจฉาชีพปลอมตัวเป็นหมอดูเพื่อเรียกค่าครูแพงหรือชวนทำพิธีเพื่อหากิน ทำให้มีความน่าเชื่อถือน้อยสำหรับคนบางกลุ่มอีกด้วย
“ทำไมไม่เห็นเหมือนกับที่เคยดูไว้เลย หลอกกันหรือเปล่า!?”
จริงๆเรื่องนี้มันพูดยาก เพราะก็มีคนที่เคยถูกหลอกจริงๆ แล้วก็อคติกับอาชีพนี้ไปเลย แต่บางคนก็โทษและคาดหวังกับคำทำนายอยู่ฝ่ายเดียว เรื่องบางเรื่อง แม้คำนายจะดีเลิศเพียงใด แต่การกระทำนั้นไม่ได้ทำอะไรให้เกิดขึ้น ก็ไม่มีทางได้ดังใจหวัง เช่น หมอดูทำนายคุณว่า “คุณจะสอบผ่าน” แต่เจ้าตัวกลับไม่อ่านหนังสือและเอาแต่เล่นเกม ก็ไม่มีทางผ่านหรอก เพราะมันอิงจากพฤติกรรมของลูกดวงเองด้วย แต่ก็มีหมอดูบางท่านฝีมือไม่ถึงและตีความผิดในการทำนายทำให้เกิดความผิดพลาดก็มี วิธีการทำนายมีหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างวิธีที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างก็คือ “การดูดวงไพ่ยิปซี”
เพราะการทำนายด้วยไพ่นั้นต้องใช้การตีความและแปรออกมา ซึ่งอาจจะมีผิดเพี้ยนกันได้
“การดูดวง เหมือนกับการที่เราไปปรับทุกข์กับใครสักคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งมันทำให้เรากล้าพูดในบางเรื่องโดยที่เราไม่ต้องรู้สึกเคอะเขิน และใช้วิธีการที่เหนือจินตนาการในโลกวิทยาศาสตร์ในการชี้ทาง”
ถึงอย่างไรวิธีนี้ก็เป็นเพียงความเชื่อ ซึ่งขอให้ใช้วิจารณญาณในการดูดวง ขนาดหมอดูยังกล่าวว่า “70% คือการทำตัว 30% คือฟ้าลิขิต” ก็อย่าไปคิดว่าคำทำนายจะชี้เป็นชี้ตายชีวิตเราขนาดนั้น ดูเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และความเพลิดเพลินก็พอ
ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิง
https://www.punpro.com/p/why-do-people-love-horoscope